ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้มีพัฒนาการอย่างแน่นแฟ้นและแน่นมิตรมายาวนานกว่า 70 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2566 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ถูกกระทบกระเทือนจากเหตุการณ์ที่ทางการเกาหลีใต้เข้มงวดในการคัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ โดยเฉพาะชาวไทย ส่งผลให้มีคนไทยจำนวนมากถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากปัญหาแรงงานผีน้อยชาวไทยที่ลักลอบเดินทางเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย โดยทางการเกาหลีใต้มีนโยบายกวาดล้างแรงงานผีน้อยอย่างจริงจัง ซึ่งส่งผลให้มีคนไทยจำนวนมากถูกจับกุมและเนรเทศออกจากประเทศ

การเข้มงวดในการคัดกรองชาวต่างชาติของทางการเกาหลีใต้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในหลายด้าน โดยการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากคนไทยจำนวนมากเกรงว่าจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ นอกจากนี้ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างสองประเทศก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศทำได้ยากลำบาก

ตัวอย่างเช่น ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 การท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้ลดลงถึง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศก็ลดลงเช่นกัน โดยมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 ลดลงถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยทางการไทยได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานผีน้อย เช่น การรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงโทษของการลักลอบทำงานในต่างประเทศ และการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจภายในประเทศ

ในส่วนของทางการเกาหลีใต้ ก็ได้มีการผ่อนปรนมาตรการในการคัดกรองชาวต่างชาติบางส่วน เช่น การอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า 5 วัน

ตัวอย่างเช่น ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ทางการเกาหลีใต้ได้ผ่อนปรนมาตรการในการคัดกรองชาวต่างชาติ โดยอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า 5 วัน ซึ่งส่งผลให้มีคนไทยจำนวนมากเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น

การผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวของทางการเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศที่จะรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน

อนาคตของความสัมพันธ์ไทย-เกาหลี

ความสัมพันธ์ไทย-เกาหลีมีแนวโน้มที่จะพัฒนาอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในอนาคต โดยทั้งสองประเทศมีเป้าหมายที่จะยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่การส่งเสริมความร่วมมือในหลากหลายสาขาให้มากยิ่งขึ้น

ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองประเทศมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2573 ทั้งสองประเทศมีแผนที่จะส่งเสริมความร่วมมือในสาขาต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยทั้งสองประเทศมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ทั้งสองประเทศมีแผนที่จะส่งเสริมความร่วมมือในสาขาต่างๆ เช่น การศึกษา การท่องเที่ยว และกีฬา

หากทั้งสองประเทศสามารถแก้ไขปัญหาแรงงานผีน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เกาหลีก็จะกลับมาดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ตัวอย่างความร่วมมือระหว่างไทย-เกาหลี

นอกจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ไทยและเกาหลีใต้ยังมีความร่วมมือในด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น

  • ความร่วมมือด้านการศึกษา: ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนักเรียนและนักศึกษา โดยไทยมีนักเรียนไทยที่เรียนอยู่ในเกาหลีใต้ประมาณ 10,000 คน และเกาหลีใต้มีนักศึกษาเกาหลีใต้ที่เรียนอยู่ในไทยประมาณ 2,000 คน
  • ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม: ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือในการจัดงานเทศกาลและกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมกัน เช่น งานเทศกาลภาพยนตร์ไทยในเกาหลีใต้ และงานเทศกาลภาพยนตร์เกาหลีในไทย
  • ความร่วมมือด้านกีฬา: ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์

ความร่วมมือเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศที่จะสานความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน