การบริจาคอวัยวะเป็นการกระทำอันยิ่งใหญ่ที่สามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้ แต่ในประเทศไทย ยังมีอุปสรรคหลายประการที่ขัดขวางการบริจาคอวัยวะ ทำให้ผู้ป่วยรอรับบริจาคอวัยวะจำนวนมากต้องเสียชีวิตไป

ปัจจุบันในประเทศไทยการบริจาคอวัยวะต้องได้รับความยินยอมจากญาติผู้เสียชีวิตเป็นหลัก ทำให้ในกรณีที่ผู้เสียชีวิตไม่ได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะไว้ ญาติมักปฏิเสธการบริจาค เนื่องจากความเชื่อทางศาสนา หรือความกังวลเกี่ยวกับสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิต

นอกจากนี้ ระบบการจัดสรรอวัยวะของไทยยังมีความซับซ้อนและล่าช้า ทำให้ผู้ป่วยที่รอรับบริจาคอวัยวะต้องรอคอยเป็นเวลานาน อีกทั้งยังมีความไม่เท่าเทียมกันในโอกาสที่จะได้รับบริจาคอวัยวะ เนื่องจากขึ้นอยู่กับกรุ๊ปเลือดและความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อ

ผู้สนับสนุนการปรับปรุงกฎหมายการบริจาคอวัยวะชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงระบบให้เป็นแบบ “Opt-out” ซึ่งถือว่าทุกคนเป็นผู้บริจาคอวัยวะโดยอัตโนมัติ ยกเว้นผู้ที่แจ้งยกเลิกความยินยอม จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บริจาคอวัยวะได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังควรปรับปรุงระบบการจัดสรรอวัยวะให้มีความรวดเร็วและโปร่งใสมากขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยรอรับบริจาคอวัยวะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

อย่างไรก็ตาม ผู้คัดค้านกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงระบบเป็นแบบ Opt-out อาจละเมิดสิทธิในร่างกายของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการทุจริตในระบบการจัดสรรอวัยวะ

การถกเถียงเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมายการบริจาคอวัยวะในประเทศไทยยังคงดำเนินต่อไป รัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนแปลงระบบอย่างรอบคอบ การหาข้อตกลงที่ตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ป่วยรอรับบริจาคอวัยวะ ภาครัฐ และสังคมโดยรวม เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ประเทศไทยสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนอวัยวะ และช่วยชีวิตผู้ป่วยได้มากขึ้น